วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เที่ยวแม่ฮ่องสอน เมืองหมอกสามฤดู

แบ่งปัน


คำขวัญประจำจังหวัด 
หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง

"หมอกสามฤดู"

เอกลักษณ์ของ จ. แม่ฮ่องสอน คือมีหมอกให้เห็นทุกฤดูกาล จนได้รับฉายาว่า "เมืองหมอกสามฤดู"บ้างก็เรียกว่า "เมืองสามหมอก" หรือไม่ก็ "เมืองในหมอก"
หมอก นี้มาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
หมอกแรกคือหมอกควันจากการเผาไร่ เผาป่าของชาวบ้านในช่วงฤดูร้อน หมอกสองคือหมอกไอความชื้นในฤดูฝน ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังฝนตก และหมอกสุดท้ายคือหมอกน้ำค้างที่ลอยอ้อยอิ่งในฤดูหนาว แม่ฮ่องสอนตั้งอยู่ในหุบเขาถนนธงชัยที่สูงสลับซับซ้อน จึงมีอากาศหนาวเย็นและมีความชื้นสูงที่เอื้อต่อการเกิดหมอก


“กองมูเสียดฟ้า”

ดอยกองมูที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองแม่ฮ่องสอน นอกจากจะเป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองแม่ฮ่องสอนที่ร่ำลือกันว่างามนักงามหนาแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุ 2 องค์ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแม่ฮ่องสอนมานานนับศตวรรษ พระธาตุทั้งสองเป็นเจดีย์ศิลปะมอญ องค์ใหญ่คือ จองต่องสู่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2403 ในช่วงรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพ่อค้าไม้ชาวไทใหญ่และนางเหล็กซึ่งเป็นภรรยา เพื่อประดิษฐานพระธาตุพระโมคคัลลานะ ส่วนองค์เล็กคือ พญาสิงหนาทราชา สร้างขึ้นโดยเจ้าผู้ครองเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก เมื่อ พ.ศ. 2417 ในช่วงรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุพระสารีบุตร

“ป่าเขียวขจี”

พื้นที่ส่วนใหญ่ของแม่ฮ่องสอนเต็มไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยผืนป่าประเภทต่างๆ คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งจังหวัด เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติที่สำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ อช. น้ำตกแม่สุรินทร์ อช. สาละวิน และ อช. ห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 9 แห่ง เช่น ป่าแม่ยวมฝั่งขวา ป่าแม่ปายฝั่งขวา เป็นต้น ผืนป่าในแม่ฮ่องสอนเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญๆ เช่น แม่น้ำปาย แม่น้ำยวม แม่น้ำละมาด แม่น้ำสาละวิน และน้ำตกที่งดงามน่าชมหลายแห่ง

“ผู้คนดี ประเพณีงาม”

แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองชายแดนติดกับประเทศพม่า มีประชากรหลากหลายกลุ่มชาติพันธุ์ ส่วนมากเป็นชาวไทใหญ่ซึ่งมีจำนวน 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งจังหวัด นอกจากนี้เป็นชนกลุ่มน้อยต่างๆ เช่น กะเหรี่ยง มูเซอ ลัวะ ลีซอ ม้ง เป็นต้น จ. แม่ฮ่องสอนจึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมประเพณีที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวัฒนธรรมประเพณีของชาวไทใหญ่ที่อพยพมาจากรัฐฉาน ประเทศพม่า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มคนที่ยึดมั่นในพุทธศาสนา พลังศรัทธาของชาวไทใหญ่ยังปรากฏให้เห็นจากวัดวาอารามต่างๆ ในเมืองแม่ฮ่องสอน ที่ชาวไทใหญ่ร่วมกันสร้างขึ้นเป็นพุทธบูชา โดยนำความงดงามของศิลปะไทใหญ่ผสมผสาน กับศิลปะพม่าอันวิจิตรงดงามตระการตา เช่น วัดจองกลาง วัดจองคำ เป็นต้น

ชาวไทใหญ่ยังมีประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องมาอย่างเข้มข้นหลายอย่าง เช่น ประเพณีปอยส่างลอง หรือบวชลูกแก้ว ซึ่งก็คือการบวชเณรนั่นเอง ชาวไทใหญ่เชื่อว่าการบวชเณรจะได้อานิสงส์มาก นอกจากนี้ยังมีประเพณีจองพารา หรืองานปอย ซึ่งจะมีขึ้นในเดือน 11 หรือช่วงออกพรรษา (ประมาณเดือนตุลาคม) ชาวไทใหญ่จะช่วยกันสร้างจองพารา หรือปราสาทจำลอง เพื่อรับเสด็จพระพุทธเจ้าที่จะเสด็จกลับมายังโลก หลังจากเสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

“ลือนามถิ่นบัวตอง”

นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือน จ. แม่ฮ่องสอนในช่วงฤดูหนาว ย่อมไม่พลาดชมความงดงามของทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่าม ที่พร้อมใจกันผลิบานทั่วทั้งดอยแม่อูคอ อ. ขุนยวม และดอยแม่เหาะ อ. แม่สะเรียง กินพื้นที่ครอบคลุมกว้างขวางนับพันไร่

บัวตองมีแหล่งกำเนิดอยู่ในแถบทวีปอเมริกากลางและหมู่เกาะอินเดียตะวันตก มีชื่อเป็นทางการว่า Mexican Sunflower จัดเป็นวัชพืชวงศ์เดียวกับทานตะวัน ดาวเรือง และต้นสาบเสือ แพร่พันธุ์ได้รวดเร็วในภูมิประเทศที่เป็นทุ่งโล่ง

กล่าวกันว่าผู้ที่นำเมล็ดพันธุ์บัวตองข้ามน้ำข้ามทะเลมาแพร่พันธุ์ คือ มิชชันนารีที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแถบนี้เมื่อราว 70 ปีมาแล้ว จนทำให้ทุ่งบัวตองกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเวลาต่อมา
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

เกี่ยวกับฉัน

Websiteที่รวบรวมการท่องเที่ยวดี ๆ ที่มีในประเทศไทยและต่างประเทศ