ขยับเขยื้อน ที่“ห้วยเขย่ง” ผจญภัยหลากมิติอารมณ์

แบ่งปัน

“ธรรมชาติ”                 คำสั้นๆที่มีความหมายมากกว่าภูเขา ต้นไม้ หรือสายน้ำ เพราะธรรมชาติประกอบไปด้วยการอยู่ร่วมกันของสรรพสิ่งทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต สะท้อนออกมาเป็นความลงตัวและงดงามที่นักท่องเที่ยวหลายคนไขว่คว้า โดย “ตะลอนเที่ยว” เองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องการแสวงหาความงดงามของธรรมชาติอย่างเป็นรูปธรรม สามารถสัมผัสได้ทั้งทางกาย สายตา และจิตใจ

ความเขียวขจี สุดสายตา        ดังนั้นในช่วงปลายฝนนี้ เราจึงเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปกับสัมผัสธรรมชาติ ในรูปแบบการท่องเที่ยวผจญภัยขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวในหลากหลายมิติอารมณ์เพื่อให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีน ที่ “บ้านห้วยเขย่ง” ชุมชนท่องเที่ยวน้องใหม่ที่ทาง กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) พยายามประชาสัมพันธ์และผลักดันให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น                 ห้วยเขย่ง เป็นชุมชนเล็กๆ ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ชุมชนแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ตลอดจนการอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวระหว่างผู้คนในชุมชนกับป่าไม้

เตรียมตัว ก่อนเริ่มผจญภัยในสายน้ำ        เดิมทีเราเคยรู้จักชุมชุนนี้ในฐานะที่ตั้งของโครงการหลวงที่พัฒนาด้านการเกษตรเพื่อให้คนในชุมชนมีอาชีพและมีรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น แต่วันนี้ที่ห้วยเขย่งได้ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย โดยผลักดันให้คนในชุมชนที่มีอยู่หลากหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย มอญ พม่าและกะเหรี่ยง ได้รู้จักหารายได้จากการท่องเที่ยวทางธรรมชาติซึ่งเป็นทรัพยากรมีค่าที่พวกเขานั้นครอบครองอยู่ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การท่องเที่ยวภายในชุมชนขึ้นมา                สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของห้วยเขย่งจะเน้นไปที่การผจญภัยและการศึกษาธรรมชาติ กิจกรรมหลักๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคือการล่องแพไม้ไผ่และพายเรือคายัค ใน “ลำห้วยประจำไม้” บ้านห้วยปากคอก

ล่องแพไม้ ผจญลำห้วยประจำไม้        สายน้ำสายนี้เกิดจากการรวมตัวกันของห้วยพะออซา (ห้วยน้ำใส) และห้วยเจ็ดมิตรที่มีต้นน้ำมาจากประเทศพม่า ซึ่งการเดินทางเข้าไปถึงตัวลำห้วยนั้นต้องใช้เวลาลัดเลาะผ่านชุมชนเข้าสู่ป่าธรรมชาติในช่วงสั้นๆ จากนั้นก็จะถึงยังลำห้วยประจำไม้ที่เราจะลงลุยผจญแก่งกัน                ลำห้วยที่นี่เป็นลำห้วยน้ำตื้น มีโขดหินเกาะแก่งขนาดเล็กอยู่เป็นระยะๆ จึงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยเหมือนกับการล่องแก่งขนาดใหญ่ สำหรับไม้ที่ใช้ล่องนั้นสามารถขึ้นได้ประมานลำละ 3 คน ราคาคนละ 350 บาท ระยะทางที่ล่องประมาน 4 กม. ใช้เวลาราว 45 นาที โดยชาวบ้านจะเป็นผู้ถ่อแพพาเราล่องไปตลอดลำน้ำ

หน้าตาของปูราชินี        ถัดมาเป็นการท่องเที่ยวพร้อมกับศึกษาธรรมชาติที่ พุปูราชินี เพื่อมาดูปูหายากอย่าง ปูราชินี (พุ เป็นคำเรียกของชาวบ้านแปลว่าน้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน) ที่บ้านท่ามะเดื่อ ซึ่งมีลักษณะเป็นป่าพรุน้ำจืด และมีเส้นทางเดินเพื่อศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาน 800 เมตรที่แวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สร้างความร่มรื่นตลอดทางเดิน

พุหนองปลิง        ส่วนลักษณะเด่นของปูราชินีเป็นปูน้ำจืดที่มีสีสันสวยงาม ขามีสีแดง โคนขา กล้ามหนีบและ ขอบกระดองสีขาว ส่วนกลางกระดองมีสีน้ำเงิน ชาวบ้านมักเรียกว่าปูสามสี หรือปูป่า จากการสำรวจพบเคยเจอปูราชินีขนาดใหญ่ที่สุด มีขนาดความยาวของกระดองประมาณ 7 ซม.ที่สำคัญคือเราสามารถพบปูชนิดนี้ได้แห่งเดียวในโลกบริเวณริมห้วยและพื้นที่พุในเขตพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และไทรโยค จ.กาญจนบุรีเท่านั้น                อนึ่งในการเดินชมปูราชินีนั้นอาจต้องใช้ความเงียบสักหน่อย เพราะปูชนิดนี้ไวต่อเสียงและการเคลื่อนไหว ไม่เช่นนั้นปูทั้งหลายอาจวิ่งลงรู ไม่โผล่มาให้เราได้ยลโฉมก็เป็นได้ แล้วจะหาว่า “ตะลอนเที่ยว” ไม่เตือน และถ้าโชคดีไปกว่านั้นเราจะสามารถเห็นปูที่มีสีสด มีความสวยงามมากกว่าปูปกติ

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ        ส่วนบริเวณไม่ไกลจากพุปูเป็น พุหนองปลิง ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ พุปูราชินี เหตุที่ชื่อนี้เพราะในสมัยก่อนนั้นเป็นที่ๆ มีปลิงควายอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันเมื่อการคมนาคมเข้าถึง ก็เริ่มมีชาวบ้านอพยพเข้ามาในระแวกนี้มากขึ้น ปลิงพวกนี้จึงค่อยๆ หายไป แต่ความสวยงามที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือดอกไม้ตลอดจนกล้วยไม้ป่า ที่ขึ้นอยู่ตามกิ่งไม้นานาชนิด สวยงามเมื่อยามแสงส่องลอดพุ่มไม้มาตกกระทบดอกและใบ แต่ถ้ามาในช่วงนี้อาจมีกล้วยไม้ป่าให้ดูไม่มากเท่าไหร่นัก

กล้วยไม้ป่า ที่ยังพอหาชมได้        จากนั้นเรานั่งรถผ่านเส้นทางธรรมชาติเพื่อมุ่งหน้าไปยัง ถ้ำ 28 (สองแปด) เหตุที่เรียกชื่อนี้เพราะว่าถ้ำนี้ถูกค้นพบในช่วงปี พ.ศ. 2528 ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในบ้านไร่ป้า มีความลึกจากการสำรวจแล้วประมาณ 100 เมตร ภายในมีหินงอกหินย้อยที่ไม่ตายอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของค้างคาวกิตติ ค้าวคาวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย

สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าเห็ด        สำหรับการเที่ยวที่ถ้ำ 28 นี้ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เพราะภายในถ้ำนั้นยังไม่ได้ติดตั้งระบบแสงสว่าง เนื่องด้วยความเป็นห่วงในด้านความเสื่อมโทรมของธรรมชาติทั้งของหินงอกหินย้อยและค้างคาวกิตติผู้อยู่อาศัย ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่สนใจควรนำไฟฉายติดตัวไปพร้อมกับแต่งกายให้รัดกุม ใส่รองเท้าผ้าใบหรือที่มีสายรัดส้น เพราะทางขึ้นไปยังถ้ำนั้นต้องใช้การปีนป่ายกันสักเล็กน้อย ถ้าโชคดีเราอาจจะได้พบเจอกับภาพของชาวบ้านที่มาเก็บขี้ค้างคาวไปใช้ทำประโยชน์ต่างๆซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตของคนที่นี่

ถ้ำสองแปด        กิจกรรมต่อมาเราสลับอารมณ์จากการลุยป่าธรรมชาติ เปลี่ยนไปเข้ารีสอร์ทเพื่อทำกิจกรรมผจญภัยตื่นเต้นๆใน “ภูไอยรา รีสอร์ท” ที่มีกิจกรรมหลายรูปแบบไว้ให้เราเลือกเล่น โดยเฉพาะการขับขี่รถ ATV ตะลุยในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบัน บนเส้นทางออฟโรดที่รถธรรมดาไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งมีทั้งเส้นทางขึ้นเขา ลงห้วย ผ่านจุดนั่งห้างชมช้างป่า ผ่านไร่มันสำปะหลัง ผ่านเขตพื้นที่ป่ากันชนที่มีรอยเท้าช้างปรากฏให้เราลงไปวัดรอยเท้าเล่น ก่อนจะขี่รถกลับที่พักไปแบบชิลล์ ชิลล์

ค้างคาวกิตติ        แต่ทั้งนี้การขับขี่แบบออฟโรดนั้นจำเป็นต้องฝึกทักษะเบื้องต้นก่อนพอสมควร เพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสนุกสนานยามขับขี่ และไม่ควรใช้ความเร็วในการขับขี่มากนัก เพราะอาจเกิดอันตรายทั้งต่อตัวเองและผู้อื่นได้

ขับขี่ ATV ลุยเส้นทางวิบาก        และสุดท้ายเราส่งท้ายกับกิจกรรมปิดทริปกันด้วย Iyara Flying หรือการผจญภัยบนสลิงค์ ที่เป็นกิจกรรมยอดนิยมในปัจจุบันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผจญภัยแบบเหินเวหาไปพร้อมกับความหวาดเสียวที่เรียกเสียงกรีดร้องได้จากผู้เล่นทุกเพศทุกวัย

โหนสลิงค์ วัดใจ (ภาพ : ภูไอยราฯ)        Iyara Flying เป็นการเดินทางท้าทายความสูงด้วยการโหนสลิงระหว่างต้นไม้สูง เพื่อทดสอบความกล้า และกิจกรรมการผจญภัยอีกหลายรูปแบบ ที่มีให้เลิอกตั้งแต่ 4ฐาน จนถึง13 ฐาน มีทั้งไต่บันไดลิง บันไดเชือก กระโดดต้นไม้ และอื่นๆ อีกมากมายที่รอวัดใจผู้มาเยือน สำหรับฐานที่ช่วงที่มีระยะทางยาวและหวาดเสียวที่สุดในการโหนสลิงข้ามหุบเขานั้นอยู่ที่ 140 เมตร ซึ่งทุกขั้นตอนและอุปกรณ์ทุกชิ้นนั้นได้รับมาตรฐานระดับสากล ตลอดจนทีมงานผู้ดูแลนั้นก็ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างเชี่ยวชาญ จึงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ให้เตรียมใจไปลุ้นระทึกกับการโหนสลิงข้ามผืนป่า ข้ามหุบเขา ที่สุดเร้าใจแทนจะดีกว่า

หนึ่งในกิจกรรมผจญภัยของ ภูไอยรา รีสอร์ท (ภาพ : ภูไอยราฯ)        และนี่ก็คือกิจกรรมผจญภัยหลากหลายอารมณ์ในชุมชนห้วยเขย่ง ที่พัฒนาจากชุมชนการเกษตรเล็กๆมาสู่ชุมชนการท่องเที่ยว ที่วันนี้ที่เราได้แต่หวังว่าชุมชนแห่งนี้จะเติบโตด้านการท่องเที่ยวไปในทิศทางที่เหมาะสม มีการบริหารจัดการที่ดี และไม่ถูกโครงสร้างของทุนนิยมปัจจุบันกลืนกินจนเสียศูนย์ไป เพราะที่ผ่านมารู้ๆกันอยู่ว่า“เงิน” ไม่เข้าใครออกใคร

วิถีชีวิตเดิม บนหนทางใหม่        *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *                   ชุมชนห้วยเขย่ง ตั้งอยู่ในเขต อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวห้วยเขย่งที่เหมาะสมอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวเดือน ก.ย.-พ.ย. การเดินทางมายังห้วยเขย่งนั้นให้ใช้เส้นทางหมายเลข 323 จากตัวเมืองกาญจนบุรี และตรงมายังเส้นทางหมายเลข 3272 มุ่งสู่ อ. ทองผาภูมิ ผ่านเขื่อนวชิราลงกรณ์มาประมาณ 10 กม. ก็จะถึงศูนย์บริการท่องเที่ยวห้วยเขย่ง โดยผู้สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการท่องเที่ยวชุมชนห้วยเขย่ง โทร. 08-0068-6086, 08-4723-6063, 08-9043-8182 หรือที่ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี โทร. 0-3451-1200, 0-3451-2500 หรือที่ ภูไอยรา รีสอร์ท โทร. 0-3468-5632

แบ่งปัน